โปรโมชั่นเด็ด

ประกาศด่วน !!

      
       ขอบพระคุณงามๆกับประธานบริษัท JAP ที่ต่อโปรโมชั่นให้อีก 1เดือน ใครที่พลาดโอกาสดีๆไป คุณ รีบตั้งสติแล้วอ่านโปรโมชั่นนี้ช้าๆ และอ่านให้จบ ถ้าคุณมองเห็นถึงความคุ้มค่า อย่าได้ลังเล อย่าได้รีรอ โอกาสดีๆแบบนี้คุณจะหาที่ไหนไม่ได้อีกแล้วนอกจากที่ JAP เท่านั้น !!
โปรโมชั่นนี้สำหรับผู้นำรุ่นบุกเบิก เท่านั้น!! สมัครวันนี้ สำเร็จวันนี้เลย เริ่มรับ Passive income ของเดือนนี้ และทุกเดือน ไปตลอดชีพเลยครับ

ซื้อสินค้าอุปโภคบริโภค บิลเดียว 2,000PV ประมาณ 5,000บาท จะได้รับส่วนแบ่ง 1% จากPVยอดขายทั้งหมดในบริษัท ตลอดชีพ
หรือ 4,000PV ประมาน 10,000บ.จะได้ส่วนแบ่ง 2% จากPVยอดขายทั้งหมดในบริษัท ตลอดชีพ

*** (โดยไม่ต้องทำคุณสมบัติใดๆ ทั้งสิ้น และไม่จำเป็นต้องมีทีมงานแม้แต่คนเดียว ตำแหน่งนี้ขึ้นแล้วขึ้นเลย)และรายได้ข้อนี้ จะโอนเข้าบัญชีของคุณ ทุกวันที่ 10 ของทุกเดือน ตลอดชีพ ***

ปกติ คนที่จะได้รับส่วนแบ่ง 1% จะต้องมีการแนะนำตรง 10 คน และมีคะแนนรวม 100,000PV
และคนที่จะได้รับส่วนแบ่ง 2% ต้องทำยอดเป็นล้านกันเลยทีเดียว

      โอกาสดีๆแบบนี้ ถ้าคุณไม่คว้าเอาไว้ คุณก็คงไม่มีโอกาสได้เจออีกแล้วจร้า ถ้าคุณรับโอกาสนี้เอาไว้ คุณจะโชคดียิ่งกว่า คุณถูกรางวัลที่ 1 อีกจร้า ถ้าคุณยังพอมีสติ คุณจะรู้เลยว่ามันคุ้มค่ามากๆ คุณตัดสินใจได้หรือยังว่าคุณจะเริ่มต้นรับส่วนแบ่ง 1 หรือ 2% ดีครับ

# ทำงานด้วยระบบออนไลน์ 100%
# ไม่มีค่าสมัครสมาชิก
# ไม่ต้องโพสต์ขายของ
# ไม่ต้องเข้าร่วมอบรม สัมนา บริษัทมีการสอนงานระบบออนไลน์
# ไม่มีค่าใช้จ่ายจุกจิกใดๆทั้งสิ้น

โปรโมชั่่นนี้ มีถึง วันที่ 31 ก.ค.59 นี้ เท่านั้น!!!


สนใจ ติดต่อด่วน !!

ลงทะเบียนเว็บสมัครฟรี(ฟรีเว็บไซต์)


ติอต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
>>>Click<<<

โปรเจค800 สู่70ล้าน 
>>>Click<<<
 
094-4939900 (คุณเจ)




ธุรกิจเครือข่าย คืออะไร



ธุรกิจเครือข่าย คืออะไร ?
       หลายคนเข้ามาทำธุรกิจเครือข่ายแต่ไม่รู้อะไรซักอย่างเกี่ยวกับธุรกิจนี้ ไม่รู้ว่าธุรกิจเครือข่ายคืออะไร? ที่ทำเพราะเพื่อนชวน หรือทำเพราะอยากมีรายได้ตามที่เข้าไปฟังมากับบริษัทต่างๆแต่ก็ยังไม่รู้ว่าจะทำงานยังไง?  คนที่เป็นมือใหม่ หรือคนที่ยังไม่มีประสบการณ์ การที่คุณจะเลือกทำ ธุรกิจเครือข่าย MLM ทั้งทีแล้ว อันดับแรกคุณควรต้อง ศึกษา เรียนรู้ ให้เข้าใจซ่ะก่อนว่า

- ธุรกิจเครือข่ายคืออะไร ?  
- ขายตรงคืออะไร ?  
- ธุรกิจลูกโซ่คืออะไร ?


ธุรกิจเครือข่าย คืออะไร 
        ผมขออนุญาตตอบคำถามที่เป็นหนึ่งในคำถามที่ถูกถามมากที่สุด และอาจเป็นคำถามที่เป็นพื้นฐานที่สุดของบรรดาคำถามทั้งปวง นั่นคือ 

“ธุรกิจเครือข่าย หรือ Multi-level Marketing หรือ MLM นั้นคืออะไร” 

       
        ธุรกิจเครือข่าย หรือ MLM เป็นระบบธุรกิจการตลาดรูปแบบใหม่ที่เปิดโอกาสให้ผู้บริโภคสามารถมีส่วนแบ่งค่าการตลาด และค่าลิขสิทธิ์ได้ โดยได้เป็นเจ้าของธุรกิจที่สร้างรายได้จำนวนมาก โดยไม่ต้องมีความเสี่ยงและไม่ต้องลงทุนเงินเป็นจำนวนมากเหมือนกับการทำธุรกิจทั่วๆไป ไม่ต้องวิจัยสินค้า ไม่ต้องสต็อคสินค้า  ไม่ต้องทำบัญชี ไม่ต้องมีโรงงานเพียงเริ่มต้นจากการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ดี และเมื่อเกิดความประทับใจในตัวผลิตภัณฑ์ที่ใช้ ก็ทำการแนะนำบอกต่อให้คนที่รู้จักได้ใช้ผลิตภัณฑ์ที่ดีนั้นเหมือนกับตนเป็น  เกิดการโฆษณาแบบปากต่อปาก เมื่อมีการซื้อผลิตภัณฑ์ใช้ตามคำบอกเล่าจากผู้แนะนำ ก็จะทำให้เกิดกระบวนการเคลื่อนย้ายสินค้าจากผู้ผลิตไปสู่ผู้บริโภคโดยตรง  โดยไม่ต้องผ่านกระบวนการโฆษณา ดารา สื่อสิ่งพิมพ์ สื่อวิทยุ และพ่อค้าคนกลาง เหมือนกับการตลาดแบบเดิม บริษัทจึงจ่ายรายได้ส่วนนึงให้ เป็น ค่าโฆษณา  ค่าลิขสิทธ์  ที่คุณเป็นคนทำการตลาดให้บริษัทนั่นเอง  (ตามภาพข้างล่าง)



     โดยเนื้อแท้แล้ว ธุรกิจเครือข่าย MLM ก็คือการทำการตลาดรูปแบบนึงเท่านั้นเอง  มาดูกันให้ลึกอีกนิดครับ ว่ามีวิธีหลักๆในการทำการตลาด  เพื่อเคลื่อนสินค้าและบริการไปสู่ผู้บริโภค หลักๆมีแบบใดบ้าง

1. Retailing หรือ การขายปลีก ผมเชื่อว่า ทุกๆ คนคุ้นเคยกับระบบนี้ดีอยู่แล้ว คุณเดินเข้าไปในร้านของชำ ร้านขายยา หรือห้างสรรพสินค้า แล้วซื้อสินค้าบางอย่างออกมา โดยบริษัททำการโฆษณา ประชาสัมพันธ์  ทีวี สื่อทุกชนิด  จ้างดารา-นักร้อง มาเป็นพรีเซนเตอร์

2. Direct Sales (Single-Level Marketing) หรือ การขายตรงคือการเคลื่อนสินค้าไปสู่ผู้บริโภค ผ่านทางเทคนิคของการขาย เช่น การไปบ้านลูกค้าเพื่อนำเสนอสินค้า การโทรศัพท์ไปขายของให้กับลูกค้า การขายตรงบางครั้งถือว่าเป็นการขายที่ไม่มีพ่อค้าคนกลาง (เช่น ร้าน Retail หรือ บริษัทตัวแทนจำหน่าย) ยกตัวอย่าง (แต่ไม่เสมอไป) เช่น การขายประกัน เครื่องครัว สารานุกรม สาวขายเอว่อน มิสทีน  โดยนักขายเป็นคนทำการโฆษณา ประชาสัมพันธ์ หรืออาจมีบริษัททำการโฆษณา ประชาสัมพันธ์ควบคู่ไปด้วย

3. Multi-Level Marketing (MLM) หรือ การตลาดเครือข่าย คือสิ่งที่เราจะพูดถึงในบทความนี้ เราไม่ควรสับสนระหว่างสองอย่างข้างบน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กับการขายตรง คนส่วนใหญ่มักสับสนระหว่างการตลาดเครือข่ายกับการขายตรง  โดยผู้บริโภคเอง เป็นคนทำการโฆษณา ประชาสัมพันธ์  บริษัทจะไม่ทำโฆษณาเอง 

ความแตกต่างระหว่างธุรกิจเครือข่าย MLM กับ การขายตรง
   
      หากคุณทำงานให้กับบริษัทขายตรง และคุณตัดสินใจที่จะลาออกเพราะคุณต้องย้ายไปอาศัยที่ท้องถิ่นอื่น คุณอาจต้องเริ่มทำงานทั้งหมดใหม่อีกครั้ง สร้างลูกค้ารายใหม่ๆ
  
       แต่หากคุณอยู่ในบริษัท MLM คุณ สามารถย้ายไปในท้องที่ใดก็ได้ และเริ่มอุปถัมภ์ผู้คนใหม่โดยไม่สูญเสียยอดขายจากองค์กรที่คุณได้สร้างไว้ แล้วในท้องที่เดิม การทำธุรกิจเครือข่ายคุณสามารถสร้างรายได้ได้มากมายจากการสร้างองค์กร ไม่ใช่แค่การขาย 
    
       ข้าพเจ้ายังขอยืนยังอีกครั้ง คุณสามารถมีความเป็นอยู่ที่ดีได้จากการขายของ แต่คุณสามารถสร้าง “ความมั่งคั่งอย่างถาวร” ได้ด้วยการสร้างองค์กรเท่านั้น
     
       ผู้คนจำนวนมากเข้าสู่ ธุรกิจเครือข่าย เพียงแค่ต้องการมีรายได้เพิ่มเดือนละ 5000 , 10,000 บาท หรือ 20,000 บาท ต่อเดือนและทันใดนั้นเขาต้องการที่จะจริงจังและเขาสามารถทำได้ถึงเดือนละ แสน หรือ 3 แสนได้ หรือมากกว่านั้น เขาเหล่านี้ไม่ได้หาเงินจำนวนมากจากการขายของ เขาทำได้จากการสร้างองค์กร

ข้อแตกต่างอีกอย่างของ MLM กับการขายตรง

       นั้นคือการ “ช่วยเหลือ” (Sponsor) ผู้จำหน่ายคนอื่นๆบางบริษัทอาจใช้คำว่า การหาสมาชิกใหม่ อย่างไรก็ตาม การ Sponsor กับการหาสมาชิกนั้นต่างกันอย่างแน่นอน 

      คุณ Sponsor คนบางคน แล้ว “สอน” ให้ เขาทำสิ่งที่คุณทำอยู่ เพื่อให้เขาสร้างธุรกิจของเขาเอง การ Sponsor คนบางคน กับการทำให้คนบางคนเซ็นใบสมัครนั้นต่างกันมาก เมื่อคุณ “Sponsor” ใคร บางคน คุณกำลังให้คำมั่นสัญญาที่จะช่วยเขาจนกว่าเขาจะประสบความสำเร็จ หากคุณไม่ประสงค์ที่จะให้คำมั่น คุณกำลังทำร้ายเขาถ้าคุณทำให้เขาเซ็นใบสมัคร 

       มันเป็น “ความรับผิดชอบ” ของ ผู้แนะนำที่จะสอนผู้ที่เขานำเข้ามาในธุรกิจให้รู้ถึงทุกสิ่งทุกอย่างใน ธุรกิจ เช่น การสั่งสินค้า การจดบันทึกความคืบหน้าในธุรกิจ การเริ่มต้น วิธีในการฝึกอบรม เพราะการช่วยเหลือเป็นสิ่งสำคัญ ที่ทำให้ธุรกิจเครือข่ายเติบโต เมื่อองค์กรของคุณโต คุณก็จะเป็นนักธุรกิจอิสระที่ประสบความสำเร็จ ในที่สุดคุณจะกลายเป็นเจ้านายของตัวเอง!

ธุรกิจเครือข่าย ธุรกิจลูกโซ่ต่างกันยังไง ?
ธุรกิจลูกโซ่หรือแชร์ลูกโซ่มีข้อสังเกตดังนี้
- ค่าสมัคร+ตำแหน่งสูงมาก คือการซื้อสินค้าเพื่อสมัครสมาชิกจะสูงมาก xx,xxxxxx,xxx
- ค่าแนะนำสูงผิดปกติ มีการจ่ายผลตอบแทนจากการชักชวนคนมาสมัครสูงผิดปกติ สุ่มเสี่ยงการระดมทุน
- เป็นสินค้าที่จับต้องไม่ได้ สินค้าไม่มีคุณภาพ สินค้าราคาสูงเกินจริง ไม่มีอย.  สคบ.ไม่ผ่าน
- ไม่มีนโยบายรับคืนสินค้า เพราะอาจทำให้ระบบลูกโซ่ล่มสลายได้ 
- แซงกันไม่ได้  ทั้งตำแหน่ง และรายได้ 
- ไม่มีการจัดอบรมพัฒนานักธุรกิจ  เน้นดึงเงินเข้ามาให้มากที่สุดอย่างเดียว
- มักไม่มีสาขา พร้อมปิดบริษัทหนีทุกเมื่อ

ธุรกิจลูกโซ่ หรือ Money Game 
        เป็นระบบที่เล่นกับความโลภของคน คนที่หลงเข้าไปในระบบส่วนใหญ่เป็นคนที่ต้องการผลตอบแทนจำนวนมาก และ ไม่ต้องอะไรเลย (อยากได้เงินแต่ไม่ต้องทำอะไร) 
ดังนั้นหากเป็นระบบธุรกิจแบบเครือข่ายจริง ๆ แล้วจะเป็นไปไม่ได้ที่คุณอยากจะมีรายได้หลักหมื่นหลักแสนเหมือนตัวอย่างของคนสำเร็จ แต่ไม่อยากทำอะไรเลย ไม่อยากซื้อสินค้า ไม่อยากเรียนรู้ระบบ
        ดังนั้น “อย่าโลภ อย่าหลงเชื่อ ว่ามีงานที่สบาย ไม่ต้องทำอะไร ก็ได้เงิน” เพื่อน ๆ คิดว่ามีจริงเหรอ ? หรือถ้าหากใครบางคนคิดว่า การเข้ามาทำธุรกิจที่ดำเนินการแบบเครือข่าย เป็นธุรกิจที่สบาย ไม่ต้องทำอะไร ก็สามารถมีรายได้หลักหมื่นหลักแสน คน ๆ นั้นก็คิดผิดแล้วล่ะครับ อย่าเสียดายเงินค่าสมัคร (แค่ไม่กี่ร้อยบาท) เข้ามาให้เสียเวลาเลย
ความสำเร็จต่าง ๆ ขึ้นอยู่กับการกระทำของตัวเรา หากเราไม่สร้างเอง แล้วใครจะสร้างให้เรา จริงมั๊ยครับ

1SLc4isHbsWGcyfu0N8KCEXYyq_EkRFKAMhnuVqnvKKDPOEV5IDqLNEbuWaFOpfpe_eICSJgsbXr60ko5ZCxehOGTNKAghg%3Dw361-h120-nc.gif (320×106)

คุณล้มเหลวเท่าเขาหรือยัง ถึงยอมแพ้


คุณล้มเหลวเท่าเขาหรือยัง ถึงยอมแพ้


ถ้าคุณล้มเหลวสักครั้ง..ท้อไปใย
        เพราะในชีวิตของคนๆหนึ่ง จะมีกี่คนที่ "ไม่เคยล้มเหลว" แต่การล้มเหลวไม่ได้หมายถึง"ความพ่ายแพ้" หากแต่หมายถึงการต้อง"เริ่มต้นใหม่"ผมนับถือชายคนหนึ่งที่"ล้มเหลว"มาตลอดชีวิต แต่เมื่อเขาทำสำเร็จเพียงครั้งเดียว คนทั้งโลกก็รู้จักเขา  ชายคนนี้คือ"ผู้พันแซนเดอร์ส"...เจ้าของ KFC ร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดที่มีขายทั่วโลก


   
   ผู้พันแซนเดอร์ส เป็นชายผู้ล้มเหลวมาตลอดชีวิต 
       ฮาร์แลนด์ ดี แซนเดอร์ส เกิดที่เมืองคอร์บิน มลรัฐเคนตั๊กกี้ เมื่อวันที่ 9 กันยายน 1890 แต่เมื่อเขาอายุเพียง 5 ขวบ บิดาก็เสียชีวิต ทำให้ครอบครัวอยู่ในสภาพยากจน เขาจึงต้องออกจากโรงเรียนเมื่ออายุ 16 และต้องหางานทำในวัย 17 ปี เขาสร้างสถิติโลกด้วยการตกงานปีเดียว 4 ครั้ง !!! โชคดีหรือเปล่าก็ไม่รู้ แต่เขาก็ได้แต่งงานในวัยเพียง 18 ซึ่งยังเด็กเกินไปที่จะมีครอบครัวและความรับผิดชอบ แถมอายุ 19 เขาก็กลายเป็นพ่อคน แต่เพียงปีเดียว เมื่อเขาอายุ 20 ภรรยาก็หอบลูกสาวหนีไปจากชีวิต เพราะทนใช้ชีวิตกับคนไม่เอาไหนแบบเขาต่อไปไม่ได้ 

เขาจึงตัดสินใจสมัครเป็นทหาร !!!
       แต่คนจะ"ล้มเหลว"อะไรก็ช่วยไม่ได้ เพราะไม่นานเขาก็ถูกขับออกจากกองทัพ จึงตัดสินใจเข้าโรงเรียนกฎหมาย แต่ก็ตามฟอร์ม เขาถูกปฏิเสธอย่างไม่ใยดี แซนเดอร์สจึงต้องไปทำงานเป็นพนักงานขายประกัน และก็ตามคาดหมาย..เขาล้มเหลวกับงานนี้


แซนเดอร์สเชื่อมั่นว่าเขาต้องมีดีแน่ๆ...สักอย่าง
      และสิ่งที่เขาเชื่อว่าเขาทำได้(ดี)ก็คือ การทำอาหาร เพราะต้องช่วยแม่เลี้ยงน้องเมื่อพ่อเสียชีวิต เขาจึงสมัครและได้รับโอกาสให้ทำงานเป็นพ่อครัวและคนล้างจานในร้านกาแฟเล็กๆแห่งหนึ่ง แต่นั่นก็ไม่ใช่ชีวิตที่ทรงคุณค่าอะไรเลยในความคิดของเขา กระนั้นก็ตาม แม้แซนเดอร์สเห็นว่านั่นไม่ใช่ชีวิตที่ทรงคุณค่าอะไร แต่เขาทำอาหารและล้างจานที่นั่น
        แต่การ"มีงานทำ"ทำให้เขาคิดถึงการเป็น"ครอบครัว" นั่นคืออยู่พร้อมหน้า 3 คนพ่อแม่ลูก เขาจึงติดต่อภรรยาและอ้อนวอนให้เธอกลับมาใช้ชีวิตร่วมกันอีกครั้ง แต่ก็ได้รับคำปฏิเสธ ทำให้เขาตัดสินใจว่าจะขอคืนเพียงลูกสาว แต่ก็ถูกปฏิเสธ เพราะสถานะของเขาไม่ดีพอที่จะเลี้ยงลูกสาว 

แซนเดอร์สวางแผนลักพาตัวลูกกลับมาอยู่ในอ้อมอก
     ในร้านกาแฟ เขาวางแผนในการลักพาตัวลูกสาวกลับคืนมาสู่อ้อมอกของตนทุกขั้นตอนละเอียดยิบ คำนวณทุกฝีก้าว และเมื่อถึงเวลา เขาก็ไปซ่อนตัวอยู่ในพุ่มไม้นอกบ้านหลังเล็กๆของภรรยาพร้อมจับจ้องเวลาที่ลูกสาวจะออกมาวิ่งเล่นหน้าบ้านเพื่อลักพาตัว   แต่..อนิจจา วันนั้น ลูกสาวของเขากลับไม่ออกมาเล่นหน้าบ้าน แซนเดอร์สล้มเหลวแม้กระทั่งจะก่ออาชญากรรม แต่โชคดีที่สุดท้าย เขาสามารถโน้มน้าวภรรยาให้กลับมาอยู่ด้วยกันได้ครับพ่อแม่ลูก


        การอยู่พร้อมหน้าทั้งครอบครัว ทำให้เขามีกำลังใจและทำงานจนเกษียณตอนอายุ 65 สิ่งที่เขาได้รับในวันแรกหลังเกษียณไม่มีงานทำ คือเช็คเงินประกันสังคมฉบับแรกในชีวิตของเขาเป็นเงิน 105 ดอลลาร์ ซึ่งแปลว่า เขามีเงินเหลือจากการทำงานเพียง 105 ดอลลาร์ และจากนี้ไป เขาจะมีชีวิตจากเงินสวัสดิการของรัฐบาล
      
       แม้ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาล้มเหลว แต่นี่เป็นครั้งแรกที่แซนเดอร์สหมดกำลังใจและท้อแท้ เขาจึงคิดว่า เมื่อไม่สามารถดูแลตัวเอง ต้องมีชีวิตอยู่โดยให้รัฐบาลดูแล เขาก็ไม่ควรจะมีชีวิตอีกต่อไป

แซนเดอร์สจึงตัดสินใจครั้งสำคัญที่สุดในชีวิต นั่นคือฆ่าตัวตาย !! 
       เมื่อตัดสินใจเด็ดขาด เขาจึงหยิบกระดาษขึ้นมาพร้อมกับดินสอ แล้วนั่งลงใต้ต้นไม้ในสวนหลังบ้านเพื่อเขียนคำสั่งเสียและพินัยกรรม แต่ในขณะนั้น เขากลับเขียนสิ่งที่เขาควรจะเป็น และสิ่งที่เขาควรจะมีในชีวิต รวมไปถึงสิ่งที่เขาปรารถนาก่อนตาย และเขาก็พบความจริงที่น่าเศร้าว่าเขาไม่เคยทำอะไรสำเร็จเป็นชิ้นเป็นอันกับเขาเลย
       แต่แซนเดอร์ก็ "ยกย่องตัวเอง" ว่าเขาทำได้ในสิ่งที่หลายคนแพ้เขาแน่นอน นั่นคือเขารู้วิธีปรุงอาหาร



       ชีวิตแซนเดอร์สเปลี่ยนไปทันทีที่เขาเขียนกระดาษแผ่นนั้นจบเขาคิดว่าขอเลือกที่จะมีชีวิตอยู่เพื่อทำอะไรสักอย่างในชีวิตให้ประสบความสำเร็จ ถ้าจะตายก็ขอตายโดยได้พยายามทำบางสิ่งบางอย่างที่มีคุณค่าด้วยชีวิต เขาจึงลุกขึ้นจากสนามหญ้ามุ่งหน้าไปยังธนาคารเพื่อขอยืมเงิน 87 ดอลลาร์จากเช็คประกันสังคมฉบับต่อไป พร้อมซื้อกล่องเปล่าและไก่จำนวนหนึ่ง 
       เมื่อกลับถึงบ้าน เขาลงมือทอดไก่ที่ซื้อมาด้วยสูตรพิเศษที่เขาได้คิดค้นขึ้นเองในช่วงหลายปีที่ทำงานที่ร้านกาแฟ  จะมีกี่คนที่รู้ว่านั่นคือจุดเริ่มต้นของ"ไก่ทอดเคเอฟซี" จากสูตรของแซนเดอร์ส ที่เริ่มในวัย 65 แล้วนำไก่ที่ทดออกขายตามบ้านต่างๆในเมืองคอร์บิน รัฐเคนตั๊กกี้  คนที่ล้มเหลวมาตลอดชีวิต และประสบความสำเร็จในวัย 65 คนนี้ น่าจะเป็นแรงบันดาลใจให้ใครหลายคนที่เคยท้อแท้ ลองคิดใหม่ว่าตัวเองก็น่าจะมีดีอะไรสักอย่าง...เหมือนแซนเดอร์ส ชายแก่ผู้สร้างชื่อให้รัฐเคนตั๊กกี้ จนผู้ว่าการรัฐจึงแต่งตั้งให้เขาเป็น"ผู้พันแซนเดอร์ส" เพื่อเป็นเกียรติประวัติ
      
       และวันนี้ KFC ทั่งโลกกว่า 3 หมื่นร้านใน 100 ประเทศย่อมบอกชัดเจนว่า
 " แม้จะล้มเหลวมาตลอดชีวิต แต่หากสามารถประสบความสำเร็จเพียงครั้งเดียว..ก็คุ้มค่า "


เคล็ดลับในการทำธุรกิจเครือข่ายแบบใหม่
ถ้าคุณต้องการเรียนรู้กดที่ icon ด้านล่างได้เลย


95%ที่ล้มเหลว


ความจริงที่แสนโหดร้าย กับทีมงาน 95% ในองค์กรทุกองค์กร ทุกบริษัท...
รู้ไหมทำไมคนทำธุรกิจเครือข่าย ธุรกิจออนไลน์ ถึงต้องย้ายค่าย เปลี่ยนบริษัทบ่อยๆ ไม่ประสบความสำเร็จซักทีไม่ว่าแผนการตลาดแบบไหน ไม่ว่าจะเป็น  ไบนารี่ ยูนิเลเวล สตาร์เสต็บ

จะมีกี่คนที่ยังซื้อสินค้าและบริการนั้นซ้ำ ถ้าไม่มีทีมงาน
     ความจริงก็คือ เมื่อคนมากกว่า 95% ไม่มีรายได้จะมีกี่คนที่ยังซื้อสินค้านั้นอยู่ บางบริษัทจะเป็นการซื้อเพื่อเก็บคะแนน คุณลองคิดดู เมื่อไม่มีคะแนน อัพไลน์ก็จะไม่มีคะแนนเช่นกัน  ยิ่งแผนที่คุณเลือกทำนั้นไม่ต้องรักษายอดก็จะเห็นชัดมากๆ  เมื่อเป็นอย่างนี้ใครเขาจะอยู่ต่อละครับ  สำหรับคนที่มีประสบการณ์ ลองเปิดผังองค์กรดูครับ ว่ามันเป็นจริงอย่างที่ผมบอกไหม 



แล้วจะแก้ไขปัญหานี้ยังไงกันดีละครับ

1. สอนงานคนใหม่ให้สามารถขยายเครือข่ายให้ได้ เพื่อให้คุณมีรายได้จะได้มีการซื้อสินค้า เพื่อรับโบนัสเหล่านั้น
2. สอนงานคนใหม่ให้ออกไปขายสินค้า  คุณชอบขายไหมละ?
3. แนะนำคนใหม่เพิ่ม หาคนใหม่เพิ่มเข้ามา
4. ดึงทีมงานเข้ามาอบรมเรื่องสินค้าเพื่อกระตุ้นยอดขาย

ก็จะเกิดเป็นวัฒจักร      สอนงาน - หาสมาชิกใหม่ - อบรมสินค้า - ให้ไปขายสินค้า
นั่นคือความเป็นจริงที่คุณเคยเจอใช่ไหม
มันก็แค่ โยนปัญหาลงไปให้คนใหม่ ถูกไหมครับ
มันจะไม่มีทางหายไปได้เลย ตราบที่ยังมีคนใหม่เข้ามา

ผมเองก็เคยเป็นแบบนี้ เข้าใจดีถึงกึ๋นเลยละ
แล้วคุณเบื่อที่ต้องเจอกับปัญหาเเบบนี้หรือยัง ?



แล้วรู้ไหมละทำไมคนส่วนมากเหล่านั้นไม่ซื้อสินค้า
     เพราะเขาซื้อ ก็ไม่ได้ทำให้รายได้ของเขาเกิดไงครับ อย่างมากก็แค่เก็บคะแนน  แต่ที่ผมต้องการจะสื่อ และกำลังจะบอกว่า จนสุดท้ายสุด..... มันก็จะเกิดคนสุดท้ายที่ไม่มีทีมงานเลย อยู่ดีมันก็คงไม่มีทางจะมีรายได้อยู่ดี นั่นต่างหากที่จะเป็นปัญหาในอนาคต

นั่นเป็นเพราะการทำธุรกิจเครือข่ายในปัจจุบันเปลี่ยนไป ที่ปลูกฝังกันผิดๆ

และมันเป็นการทำร้ายคนใหม่ๆที่สนใจที่เข้ามาทำธุรกิจนี้  เช่น....

ธุรกิจเราไม่ต้องขาย  แต่ความจริง ต้องซื้อสินค้ามากมายเพื่อปิดตำแหน่ง ( หลักหมื่นถึงหลักแสนก็มี )
ธุรกิจเราแค่ซื้อกินซื้อใช้  แต่ความจริง  ยอดที่ต้องซื้อกินซื้อใช้ต่อเดือน มันมากเกินกว่าจะบริโภคไหวหรือเกินกำลังที่จะซื้อใช้ได้  คนมากมายที่เข้ามาล้วนเจ็บตัว เกิดหนี้สิน และบางคนถึงขั้นฆ่าตัวตายก็มี



 ดังนั้นเราต้องปลูกฝังสิ่งที่ถูกต้องกันใหม่

- ธุรกิจเครือข่ายที่แท้จริง ควรเป็นธุรกิจผู้บริโภคที่แท้จริง
- โดยต้องเริ่มจากการบริโภคส่วนตัวก่อน
- ซึ่งไม่จำเป็นเลยต้องเริ่มต้นที่ตำแหน่งสูงๆ ของบริษัทนั้นๆ
- เพราะคนที่ได้ประโยชน์ ไม่ใช่คนที่ สมัครใหม่แน่นอน
- และรับรองว่าคุณไม่ได้เสียอะไร เพราะแต่ละธุรกิจ
- เมื่อคุณมีรายได้ที่มากพอ ล้วนเปิดโอกาสให้คุณทำตำแหน่งเพิ่มได้
- หรือบางบริษัทก็ดูที่ผลงาน ยอดกลุ่ม ของคุณ


แต่ถ้าวันนี้ คนไม่เก่ง หรือคนที่สมัครใหม่ๆ แต่สามารถมีสิทธิ์รับรายได้เหมือนกับ เบอร์ 1 ของบริษัทจะเกิดอะไรขึ้น ???


" ผมเองเคยคิดว่า ถ้าทุกคนในเครือข่าย รวมทั้งคนที่แนะนำคนไม่ได้ ไม่มีทีมงาน แต่เขาสามารถมีสิทธิ์รับรายได้ เท่ากับ คนที่สมัครคนแรกของบริษัท "

จะเกิดอะไรขึ้น ?



จากรูปเป็นแผนของไบนารี่ กับยูนิเลเวลซึ่งแท้จริงแล้วมันก็ทุกแผนและครับ

      ที่จะมีการเติบโตของเครือข่ายแบบนี้  ที่เอารูปนี้มาเพราะจะเห็นได้ชัด และดูง่ายครับ ไม่ได้โจมตีใคร แค่มันเป็นความจริงที่คุณต้องมองให้ออกครับ

- ซึ่งคุณก็จะเห็นได้ว่า คะแนนส่วนมากนั้นมาจากทีมงานข้างล่าง
- ดังนั้นคนสุดท้าย ในมุมมองของผมนั้นสำคัญที่สุด
- การที่เราจะมั่นคงได้ คนเหล่านี้มีส่วนสำคัญมาก
- เพราะถ้าเป็นการบริโภคตามธรรมชาติ คุณก็จะมีรายได้เองอย่างมั่นคงด่วยซ้ำ

" และถ้าวันนี้คนเหล่านี้สามารถมีสิทธ์รับรายได้เหมือนกับคนที่อยู่สูงสุด
แค่เพียงซื้อกินซื้อใช้เอง ประมาณ 800 บาท
แต่สามารถมีสิทธ์ รับรายได้สูงสุด 531,432 บาท "

คุณคิดว่าเงื่อนไขนี้ทุกคนยินดีไหมที่จะซื้อกินซื้อใช้

  ซึ่งมันเป็นยอดการบริโภคที่คนส่วนมากรับได้
✅  ซึ่งมันจะกลายเป็นยอดที่จะทำให้คุณมีความมั่นคงขนาดไหนลองคิดดู
✅ วันนี้บริษัทที่ผมเลือกนั้นมีแผนแบบนี้ คุณสามารถเข้าไปเรียนรู้ได้ในระบบสมาชิก
✅ แค่เพียงลงทะเบียนเข้ามาเป็นส่วนนึงของเรา
✅ เข้ามาศึกษาข้อมูล เรียนรู้และทดลองใช้ระบบได้ฟรี
✅ แล้วคุณอาจจะพบว่า นี่อาจจะเป็นวิธีการและบริษัทที่คุณตามหาอยู่ก็ได้


ถ้าคุณต้องการเรียนรู้กดที่ icon ด้านล่างได้เลย

ทำไมต้องทำธุรกิจเครือข่าย



ถ้าถามว่าทำไมต้องทำธุรกิจเครือข่าย

   วันนี้...ทำไมหลายคนที่มีงานดีๆ หน้าที่ดีๆ หรือมีความมั่นคงอยู่แล้ว เลือกที่จะทำธุรกิจเครือข่าย  ทำไมคนมากมายถึงยอมรับและเดินเข้าสู่ธุรกิจนี้มากขึ้นเพราะอะไรก็มีหลายเหตุผล ซึ่งเป็นความสวยงามของธุรกิจเครือข่าย ลองไปดูกัน

  สามารถสร้างรายได้มาก ไม่จำกัดความรู้
  ไม่ต้องเป็นลูกน้องใคร เป็นเจ้านายตัวเอง
  มีคนให้คำปรึกษาในการทำงานมากมาย
  หยุดทำรายได้ไม่หยุด
  ส่งต่อเป็นมรดกให้ลูกหลานได้
  ได้ช่วยเหลือคนอื่น
✅  มีสุขภาพดีขึ้นจากสินค้า
  มีอิสรภาพทางด้านการเงินและเวลา
  และอื่นๆอีกมากมาย  จึงทำให้ธุรกิจเครือข่ายได้รับการยอมรับมากขึ้น

ที่สำคัญถึงคุณจะไม่ทำ ก็ต้องมีคนชวนคุณอย่างแน่นอน !!!

ธุรกิจเครือข่ายเป็นงานที่ถ้าทำระยะหนึ่งแล้ว
เราสามารถหยุดทำงานได้แบบที่รายได้ไม่หยุดตาม 
เพื่อให้เห็นภาพชัดขึ้นขอเชิญดูนิทานเรื่องนี้
ปาโปน และบูโน่

      ณ หมู่บ้านเล็กๆแสนไกลในหุบเขาที่งดงาม มีชายหนุ่มสองคนเป็นเพื่อนรักกันอาศัยอยู่ ชื่อปาโปน และบูโน่ พวกเขายังหนุ่มแน่นและพูดถึงชีวิตที่ดีกว่าสำหรับพวกเขาเอง พวกเขาจะพูดถึงความใฝ่ฝันของพวกเขาเสมอในการที่พวกเขาจะเป็นคนหนุ่มที่ประสบความสำเร็จที่สุดในหมู่บ้าน พวกเขาไม่กลัวงานหนักและมองหาโอกาสที่จะช่วยให้ความใฝ่ฝันของพวกเขาเป็นความจริง พวกเขาคุยกันทุกๆวันมองหาหนทางและมองหาโอกาสเพื่อให้ความฝันของพวกเขาเป็นความจริงขึ้นมาได้
     
     วันหนึ่งโอกาสนั้นก็มาถึงผู้นำหมู่บ้านมีความคิดที่จะนำน้ำตกจากภูเขามาใช้งานในหมู่บ้าน เขาตัดสินใจว่าจ้างคนสองคนให้นำน้ำจากน้ำตกบนภูเขานำลงมาใช้ในหมู่บ้านพวกเขาจะได้รับค่าจ้างตามปริมาณของน้ำที่นำลงมาสู่หมู่บ้าน

     ปาโปน และบูโน่ รับงานมาทำอย่างกระตือรือร้น ทุกๆวันตั้งแต่เช้าจนเย็นพวกเขาทั้งสองคนไปขนน้ำลงจากหุบเขามาสู่หมู่บ้านไปกลับๆอยู่อย่างนั้น พวกเขาทำงานหนักเพื่อนำน้ำมาสู่หมู่บ้านในทุกๆเย็น พวกเขากลับบ้านพร้อมกับค่าจ้างในวันนั้นๆ บูโน่ พึงพอใจกับงานที่ทำและรายได้ที่เขาได้รับ เขามั่นใจและแน่ใจว่าความฝันของเขาจะเป็นจริงจากงานๆนี้ บูโน่คิดว่าเขาจะได้รับค่าจ้างเพิ่มขึ้น ถ้าเขาใช้ถังน้ำที่ใหญ่ขึ้นเพื่อขนน้ำให้มากขึ้นในแต่ละวัน เขาเชื่อด้วยว่ารายได้ที่เขาได้มากขึ้นไม่นานเขาจะมีเงินมากพอ สามารถซื้อวัวและซื้อบ้านตามที่เขาเคยใฝ่ฝันถึง แต่ ปาโปน ไม่ได้พอใจด้วย เมื่อสิ้นสุดวันเขาปวดไปทั้งแขนและหลัง หมดเรี่ยวหมดแรง

     เขากำลังมองหาหนทางที่จะทำให้มันง่ายขึ้นในการทำเงินให้มากขึ้น และวันหนึ่งปาโปนก็คิดขึ้นมาได้ เขาจินตนาการถึงท่อส่งน้ำเพื่อส่งน้ำจากน้ำตกบนภูเขาส่งไปยังหมู่บ้านด้วยท่อส่งน้ำนี้ เขาสามารถนำน้ำมาสู่หมู่บ้านได้มากขึ้น โดยไม่ต้องแบกถังน้ำไปกลับๆจากน้ำตกสู่หมู่บ้านอยู่อย่างนั้น

     เขาตื่นเต้นมากในงานนี้ และเริ่มวางแผน แน่นอนปาโปนแบ่งปันความคิดนี้สู่บูโน่เพื่อนของเขา และขอให้บูโน่ร่วมทำงานกับเขา เพื่อสร้างท่อส่งน้ำนั้น แต่บูโน่กับคิดว่า มันเป็นความคิดที่บ้าๆ ทั้งหมดที่บูโน่คิดถึงก็คือ สิ่งที่เงินของเขาหาซื้อได้ในวันนี้และวิธีที่จะได้มันมาอย่างรวดเร็ว เขาคิดว่าการสร้างท่อส่งน้ำจะทำให้เขาเสียเวลา และทำให้เขาบรรลุเป้าหมายช้าลงไปอีก ด้วยสาเหตุนี้ บูโน่ จึงใช้ถังน้ำที่ใหญ่ขึ้นขนน้ำไปกลับๆถี่ขึ้น เขาแน่ใจว่าด้วยวิธีนี้ เขาจะทำเงินได้มากขึ้น

     ปาโปนตัดสินใจสร้างท่อส่งน้ำด้วยตัวของเขาเอง เขาเข้าใจดีว่ามันไม่ยาก แต่ต้องต้องใช้เวลาเพื่อสร้างท่อส่งน้ำให้เสร็จสิ้นสมบูรณ์ ปาโปนรู้ว่ามันจะต้องใช้เวลาหลายปีกว่าจะสิ้นเสร็จลง แต่เขาตั้งใจในเป้าหมายของเขา

       ณ ทุกๆวัน เขาจะไปทำงานขนน้ำเหมือนเมื่อก่อน แต่ในทุกๆวันหยุดในทุกขณะที่ปาโปนมีเวลาว่าง มีโอกาส เขาจะทำงานหนักเพื่อขุดหินขุดดิน เพื่อสร้างท่อน้ำตามความคิดของเขา

    ในเดือนแรกแทบจะมองไม่เห็นอะไรเลย บูโน่และชาวบ้านต่างหัวเราะเยาะและล้อเลียนเขา พวกเขาล้อเลียนและตั้งสมญานามปาโปนว่า " มนุษย์ท่อ"
    ในระหว่างนี้เองรายได้ของบูโน่เพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า เขาได้ซื้อบ้านหลังใหญ่ขึ้นและวัวเป็นที่เรียบร้อยแล้วตามที่หวังไว้ วิถีชีวิตของเขาเปลี่ยนแปลงไป ตอนนี้เขาใช้เวลาหลังเลิกงานในร้านขายเหล้าและใช้เงินจากการหาบน้ำที่เขาได้มา

     แต่สิ่งที่บูโน่ไม่ได้ตระหนักก็คือ ร่างกายของเขา เริ่มงุ้มงอกจากการต้องขนน้ำอย่างหนักทุกๆวัน ใบหน้ายับย่นและร่างกายเริ่มอ่อนล้าลง ไม่ช้าเขาเริ่มขนน้ำได้น้อยลงและน้อยลง เนื่องจากร่างกายของเขาได้อ่อนล้าและโรยแรง

เดือนแล้วเดือนเล่าที่ ปาโปน ทำงานสร้างท่อส่งน้ำ
ไม่นานปีแรกก็เข้าสู่ปีที่สอง
ท้ายที่สุด ปาโปน ได้สร้างท่อส่งน้ำได้สำเร็จเสร็จลง
และเขาไม่ต้องแบกถังน้ำเพื่อไปกลับสู่หมู่บ้านอีกแล้วตอนนี้


         ปาโปน ได้เงินมามากขึ้นกว่าครั้งไหนๆ น้ำก็ไหลลงสู่หมู่บ้านอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ ปาโปน กิน ดื่ม นอนหลับ เขาก็ยังได้เงินแม้กระทั่งในวันพักผ่อน น้ำก็ยังไหลอยู่ต่อเนื่อง ปาโปน มีความสุขเละภาคภูมิใจในความคิดที่เขายืนหยัด และตอนนี้รายได้ของเขาหลั่งไหลมาอย่างไม่ขาดสาย ตราบที่ยังมีน้ำไหลผ่านท่อของเขาเข้ามา

*****  เรื่องราวของ บู่โน่ และปาโปน สามารถเทียบเคียงกับชีวิตพวกเรา งานที่พวกเขาทำเปรียบเหมือนกับคนส่วนใหญ่ที่ทำในชีวิตเพื่อให้ได้เงินมา บูโน่ได้เงินมาจากการแบกถังน้ำ เขาไปกลับแบกถังน้ำเพื่อนำน้ำจากน้ำตกสู่หมู่บ้านเพื่อแลกกลับเงินที่ได้มาและเพื่อเพิ่มรายได้เขาต้องเพิ่มจำนวนเที่ยวของการไปกลับๆเพื่อให้ได้หรือไม่ก็ต้องใช้ถังน้ำที่มีขนาดใหญ่ขึ้นเพื่อให้ได้น้ำมากขึ้น  มันป็นเรื่องปกติของชีวิตเราเพื่อเพิ่มรายได้เราต้องทำงานให้หนักขึ้น ทำงานเพิ่มขึ้น เช่นทำงานล่วงเวลาหรือแม้กระทั่งทำงานสองงานในขณะเดียวกัน เราด้วยก็เหมือนกันที่ต้องเพิ่มขนาดถังน้ำของเรา โดยการรับตำแหน่งที่สูงขึ้น รับรายได้ที่มากขึ้น บ่อยครั้งต้องใช้เวลามากขึ้นในที่ทำงานเราส่วนใหญ่ใช้เวลาแลกกับเงิน เช่นเดียวกับบูโน่ เราต่างก็รู้ว่าเราทุกคนมีเวลา 24 ชั่วโมง ในแต่ละวันเหมือนๆกัน แต่มันเป็นไปไม่ไช่เลยที่จะใช้เวลา 24 ชั่วโมง นั้นเพื่อทำงานแต่เพียงอย่างเดีย

ช่วงเวลาที่ยากลำบากที่สุดจะผ่านเข้ามา
เมื่อเราไม่สามารถใช้เวลาแลกกับเงิน อีกต่อไปแล้ว
เนื่องจากเรื่องอายุ สุขภาพหรือเหตุผลอื่น
เมื่อนั้นรายได้ของเราจะหยุดลง
คุณวางแผนอะไรไว้บ้างหรือเปล่า

     ที่นี้เราจะมาทบทวนในสิ่งที่ปาโปนทำอย่างชาญฉลาด ปาโปนไม่ได้ใช้เวลาทั้งหมดที่เขามีอยู่มาแลกกับเงินจำนวนจำกัด แต่เขาใช้เวลาบางส่วนสร้างท่อส่งน้ำของเขาขึ้นมา รายได้ที่มีมาอย่างต่อเนื่องนี้ไม่ได้ขึ้นกับเวลาโดยตรงที่เขาต้องทำงานในแต่ละวัน ปาโปนรู้ว่าสักวันหนึ่งอาจเป็นเรื่องสาเหตุของอายุและสุขภาพ เขาอาจไม่สามารถที่จะใช้เวลาที่มีอยู่แลกกับเงินที่จะได้อีกต่อไปแล้ว

     ปาโปนรู้ว่าถ้าเขาสามารถสร้างแนวความคิดเรื่องท่อส่งน้ำของเขาให้บังเกิดผลขึ้นมาได้ เขาก็เพียงแต่ต้องทำงานหนักเพียงครั้งเดียว หลังจากการสร้างท่อส่งน้ำสำเร็จเสร็จไปแล้ว ปาโปนสามารถเฝ้ามองดูการไหลของน้ำ และทำให้มันไหลอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้แน่ใจว่ารายได้ของเขายังเข้ามาเรื่อยๆ ปาโปนได้แสดงให้เราเห็นว่าเมื่อมีรายได้เข้ามาอย่างต่อเนื่องเราไม่จำเป็นต้องเอาเวลามาแลกกับเงินเสมอไป มันมีหนทางที่ดีกว่าจริงๆ

แล้วคุณล่ะ คุณยังทำเช่นเดียวกับบูโน่ทำรึเปล่า
ต้องใช้เวลาแลกกับเงินอยู่หรือเปล่า
หรือคุณต้องการทำเช่นเดียวกับปาโปน
เป็นผู้สร้างและคงไว้ซึ่งท่อน้ำเพื่อสร้างรายได้
เข้ามาอย่างต่อเนื่องไม่ขาดสาย

       แน่นอนว่าความสำเร็จต้องใช้เวลาและความทุ่มเทอย่างมากในช่วงแรก แต่พอทุกอย่างเริ่มเข้าสู่ระบบแล้ว อิสรภาพทั้งทางการเงินและเวลา ก็จะเขามาอย่างไม่ขาดสาย มากบ้างน้อยบ้างก็ขึ้นอยู่กับว่า คุณขยันสร้างเครือข่ายของคุณแค่ไหน

 ธุรกิจเครือข่ายอาจไม่ใช่งานที่เหมาะกับคุณ ถ้า

ถ้าคุณ คิดว่าการใช้แรงงานแลกมาซึ่งรายได้นั้นดีอยู่แล้ว
ถ้าคุณ คิดว่าคุณทำบางอย่างเพื่อคนที่คุณรัก อย่างดีที่สุดแล้ว  
ถ้าคุณ คิดว่าคุณได้ตอบแทนพระคุณ พ่อ แม่ ญาติพี่น้อง อย่างดีที่สุดแล้ว 
ถ้าคุณ รักชีวิตแบบที่ไม่ต้องคิดเอง ทำตามคำสั่งเป็นอย่างเดียว ไม่มีความต้องการ เรื่อยๆต้องการเป็นลูกจ้างตลอดชีวิต

แต่ถ้าคุณคิดว่า..........มันน่าจะมีงานบางอย่างที่ทำให้ฃีวิตดีขึ้นกว่าเดิม โดยใช้เวลาไม่มาก  นี่อาจเป็นงานที่คุณหาอยู่ก็ได้



เเน่นอนว่าเมื่อคนเราตายไปอะไรก็เอาไปไม่ได้
แต่คุณเคยคิดไหมว่า  สิ่งที่คุณจะสามารถส่งต่อ
หรือเป็นรากฐานเพื่อความสำเร็จสำหรับคนรุ่นต่อไป


คุณมีสิ่งที่ดีที่ส่งต่อให้เขาหรือเปล่า

เคยทำธุรกิจมาแล้วเชิญทางนี้

ใช่คุณรึเปล่า ?


อยากประสบความสำเร็จ
ในธุรกิจเครือข่าย อยากได้รับความมั่นคงในชีวิต
อยากได้อิสรภาพทางการเงิน และอิสรภาพทางเวลา


ใช่คุณรึเปล่า ? ที่อยากทำธุรกิจเครือข่าย
แต่ก็ไม่ชอบที่ต้องเดินทางไปประชุมทุกวัน




ใช่คุณรึเปล่า ? ที่อยากทำธุรกิจเครือข่าย
แบบที่สามารถทำที่บ้านได้จริงๆ
หรือทำที่ไหนก็ได้ที่มีอินเตอร์เน็ต
เพราะอยากมีอิสรภาพทางเวลา


ใช่คุณรึเปล่า? ที่อยากทำธุรกิจเครือข่าย
แต่เบื่อกับวิธีการทำงานแบบเดิมๆ
ที่ต้องลิสต์รายชื่อ ต้องชวนคนรู้จัก
พาคนเข้าประชุม แบบที่อัพไลน์สอน
และต้องเจอกับคำปฎิเสธซ้ำซาก


ใช่คุณรึเปล่า ? ที่อยากทำธุรกิจเครือข่าย
และอยากมีระบบที่ช่วยเหลือในการสปอนเซอร์คน
ช่วยเหลือในการตอบคำถามต่างๆ แบบนี้



ถ้าคำถามเบื้องต้นนี้ที่กล่าวมา  ถ้าคำตอบของคุณคือ "ไม่ใช่"
และคุณยังมีความเชื่ออย่างเต็มที่ว่า วิธีการเก่าๆเดิมๆนี่เป็นทางเดียว
ที่จะทำให้คุณประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจเครือข่ายได้
ต้องไปประชุมบ่อยๆ ต้องลิสต์รายชื่อ ต้องชวนคนรู้จัก
จงทำมันต่อไป เพราะคุณอาจเป็นคน 5%ที่สามารถประสบความสำเร็จได้
ตามระบบแบบเดิมที่มีมานาน เราขอชื่นชมท่านด้วยใจจริง

แต่ถ้าคำตอบของคุณคือ " ใช่ "
คุณต้องการแนวทางใหม่ๆในการทำธุรกิจเครือข่าย

กดที่ icon ด้านล่างได้เลย